Tập tin:Patachara.jpg
Tập tin gốc (1.279×847 điểm ảnh, kích thước tập tin: 1,04 MB, kiểu MIME: image/jpeg)
Tập tin này từ Wikimedia Commons. Trang miêu tả nó ở đấy được sao chép dưới đây. Commons là kho lưu trữ tập tin phương tiện có giấy phép tự do. Bạn có thể tham gia. |
Miêu tả
Miêu tảPatachara.jpg |
ไทย: ภาพวาดเหตุการณ์ในพระธรรมบท เรื่องนางปฏาจารา มีเนื้อหามาในพระธรรมบทโดยพิศดาร ดังนี้ (สนุกมาก)
ปฏาจาราเถรี ตรัสพระคาถานี้ว่า "โย จ วสฺสสตํ ชีเว" เป็นต้น.
๔๐ โกฏิในกรุงสาวัตถี มีรูปงาม. ในเวลานางมีอายุ ๑๖ ปี มารดา บิดาเมื่อจะรักษา จึงให้นางอยู่บนชั้นบนปราสาท ๗ ชั้น. ถึงเมื่อเป็น เช่นนั้น นางก็ยังสมคบกับคนรับใช้คนหนึ่งของตน. ครั้งนั้นมารดา บิดาของนางยกให้แก่ชายหนุ่มคนหนึ่ง ในสกุลที่มีชาติเสมอกันแล้ว กำหนดวันวิวาหะ. เมื่อวันวิวาหะนั้นใกล้เข้ามา, นางจึงพูดกะคนรับใช้ ผู้นั้นว่า "ได้ยินว่า มารดาบิดาจักยกฉันให้แก่สกุลโน้น, ในกาลที่ฉัน ไปสู่สกุลผัว ท่านแม้ถือบรรณาการเพื่อฉันมาแล้ว ก็จักไม่ได้เข้าไปในที่ นั้น, ถ้าท่านมีความรักในฉัน, ก็จงพาฉันหนีไปโดยทางใดทางหนึ่งใน บัดนี้นี้แล." คนรับใช้นั้นรับว่า " ดีละ นางผู้เจริญ" แล้วกล่าวว่า " ถ้า อย่างนั้นฉันจักยืนอยู่ในที่ชื่อโน้นแห่งประตูเมืองแต่เวลาเช้าตรู่พรุ่งนี้, หล่อนพึงออกไปด้วยอุบายอย่างหนึ่งแล้ว มาในที่นั้น" ในวันที่ ๒ ก็ ได้ยืนอยู่ในที่นัดหมายกันไว้.
ออกจากเรือนเหมือนเดินไปกับพวกทาสี ได้ไปยังที่นั้นแต่เช้าตรู่. ชายคน รับใช้นั้นพานางไปไกลแล้ว สำเร็จการอาศัยอยู่ในบ้านแห่งหนึ่ง ไถนา ในป่าแล้ว ได้นำฟืนและผักเป็นต้นมา. ธิดาเศรษฐีนอกนี้เอาหม้อน้ำมา แล้ว ทำกิจมีการคำข้าวและหุงต้นเป็นต้นด้วยมือตนเอง เสวยผลแห่ง ความชั่วของตน. ครั้งนั้น สัตว์เกิดในครรภ์ตั้งขึ้นในท้องของนางแล้ว. นางมีครรภ์แก่แล้วจึงอ้อนวอนสามีว่า "ใคร ๆ ผู้อุปการะของเราไม่มี ในที่นี้, ธรรมดามารดาบิดา เป็นผู้มีใจอ่อนโยนในบุตรทั้งหลาย, ท่าน จงนำฉันไปยังสำนักของท่านเถิด, ฉันจักคลอดบุตรในที่นั้น." สามีนั้น คัดค้านว่า "นางผู้เจริญ เจ้าพูดอะไร ? มารดาบิดาของเจ้าเห็นฉันแล้ว พึงทำกรรมกรณ์มีอย่างต่าง ๆ ฉันไม่อาจไปในที่นั้นได้." นางแม้อ้อนวอน แล้ว ๆ เล่า ๆ เมื่อไม่ได้ความยินยอม ในเวลาที่สามีนั้นไปป่า จึงเรียก คนผู้คุ้นเคยมาสั่งว่า "ถ้าเขามาไม่เห็นฉัน จักถามว่า 'ฉันไปไหน ?' พวกท่านพึงบอกความที่ฉันไปสู่เรือนแห่งตระกูลของตน" ดังนี้แล้ว ก็ปิดประตูเรือนหลีกไป.
นั้นแล้ว ก็ติดตามไปด้วยคิดว่า "จักให้นางกลับ" พบนางแล้วแม้จะ อ้อนวอนมีประการต่าง ๆ ก็มิอาจให้นางกลับได้.
ไปในระหว่างพุ่มไม้พุ่มหนึ่ง พูดว่า "นาย ลมกัมมัชวาตของฉัน ปั่นป่วนแล้ว" นอนกลิ้งเกลือกอยู่บนพื้นดิน คลอดเด็กโดยยากแล้ว คิด ว่า "เราพึงไปสู่เรือนแห่งตระกูลเพื่อประโยชน์ใด, ประโยชน์นั้นสำเร็จ แล้ว" จึงกลับมาสู่เรือนกับสามี สำเร็จการอยู่กันอีกเทียว.
อ้อนวอนสามีโดยนัยก่อนนั้นแล เมื่อไม่ได้ความยินยอม จึงอุ้มบุตรด้วย สะเอวหลีกไปอย่างนั้นนั่นแล แม้ถูกสามีนั้นติดตามไปพบแล้ว ก็ไม่ ปรารถนาจะกลับ.
ขึ้น. ท้องฟ้าได้มีท่อธารตกลงไม่มีระหว่าง ดังสายฟ้าแผดเผาอยู่โดยรอบ ดังจะทำลายลงด้วยเสียงแผดแห่งเมฆ. ในขณะนั้น ลมกัมมัชวาตของนาง ปั่นป่วนแล้ว. นางเรียกสามีมากล่าวว่า "นาย ลมกัมมัชวาตของฉัน ปั่นป่วนแล้ว, ฉันไม่อาจจะทนได้, ท่านจงรู้สถานที่ฝนไม่รดฉันเถิด." สามีนั้นมีมีดอยู่ในมือ ตรวจดูข้างโน้นข้างนี้ เห็นพุ่มไม้ซึ่งเกิดอยู่บน จอมปลวกแห่งหนึ่ง เริ่มจะตัด. ลำดับนั้น อสรพิษมีพิษร้ายกาจเลื้อย ออกจากจอมปลวก กัดเขาในขณะนั้นนั่นแล สรีระของเขามีสีเขียวดัง ถูกเปลวไฟอันตั้งขึ้นในภายในไหม้อยู่ ล้มลงในที่นั้นนั่นเอง. ฝ่ายภรรยา นอกนี้เสวยทุกข์อย่างมหันต์ แม้มองดูทางมาของเขาอยู่ ก็มิได้เห็นเขาเลย จึงคลอดบุตรคนอื่นอีก. ทารกทั้ง ๒ ทนกำลังแห่งลมและฝนไม่ได้ ก็ ร้องไห้ลั่น. นางเอาทารกแม้ทั้ง ๒ คนนั้นไว้ที่ระหว่างอุทร ยืนเท้า แผ่นดินด้วยเข่าและมือทั้ง ๒ ให้ราตรีล่วงไปแล้ว. สรีระทั้งสิ้นได้เป็น ดังสีใบไม้เหลือง เหมือนไม่มีโลหิต. เมื่ออรุณขึ้นนางอุ้มบุตรคนหนึ่งซึ้ง มีสีดังชิ้นเนื้อด้วยสะเอว จูงบุตรนอกนี้ด้วยนิ้วมือกล่าวว่า "มาเถิด พ่อ, บิดาเจ้าไปโดยทางนี้" ดังนี้แล้ว ก็เดินไปตามทางที่สามีไป เห็นสามี นั้นล้มตายบนจอมปลวกมีสีเขียวตัวกระด้าง ร้องไห้รำพันว่า "เพราะ อาศัยเรา สามีของเราจึงตายที่หนทางเปลี่ยว" ดังนี้แล้วก็เดินไป.
(ฉบับสีหล ชานุปฺปมาณ ไม่มี. ) มีประมาณเพียงนม เพราะฝนตกตลอดคืนยังรุ่ง ไม่อาจลงน้ำพร้อมด้วย ทารก ๒ คนได้ เพราะตนมีความรู้อ่อน จึงพักบุตรคนใหญ่ไว้ที่ฝั่งนี้ อุ้มบุตรคนเล็กนอกนี้ไปฝั่งโน้น ลาดกิ่งไม้ไว้ให้บุตรนอนแล้ว คิดว่า "จักไปที่อยู่ของบุตรนอกนี้" ไม่อาจละบุตรอ่อนได้กลับแลดูแล้ว ๆ เล่า ๆ เดินไป. ครั้นในเวลาที่นางถึงกลางแม่น้ำเหยี่ยวตัวหนึ่งเห็นเด็ก นั้น จึงโฉบลงมาจากอากาศ ด้วยสำคัญว่า "เป็นชิ้นเนื้อ." นางเห็น มันโฉบลงเพื่อต้องการบุตร จึงยกมือทั้งสองขึ้น ร้องเสียงดัง ๓ ครั้งว่า "สู สู" เหยี่ยวไม่ได้ยินเสียงนั้นเลยเพราะไกลกัน จึงเฉี่ยวเด็กบินขึ้นสู่ เวหาสไปแล้ว. แม้บุตรผู้ยืนอยู่ที่ฝั่งนี้ เห็นมารดายกมือทั้งสองขึ้น ร้อง เสียงดังที่ท่ามกลางแม่น้ำ จึงกระโดดลงในแม่น้ำโดยเร็วด้วยสำคัญว่า " มารดาเรียกเรา." เหยี่ยวเฉี่ยวบุตรอ่อนของนางไป บุตรคนโตถูกน้ำพัด ไป ด้วยประการฉะนี้.
คนหนึ่งถูกน้ำพัดไป, สามีก็ตายเสียในที่เปลี่ยว," พบบุรุษผู้หนึ่งเดินมา แต่กรุงสาวัตถี จึงถามว่า "พ่อ ท่านอยู่ที่ไหน ?"
มีอยู่, ทราบไหม ? พ่อ.
รู้จักตระกูลอื่น, ก็จงถามเถิด.
นั้นเท่านั้นแหละ พ่อ.
ตกเพื่อคนอื่น, แต่ฉันจักบอกเหตุที่ฝนตกเพื่อฉันแก่ท่านภายหลัง, โปรด บอกความเป็นไปในเรือนเศรษฐีนั้นแก่ฉันก่อน.
เศรษฐี ๑ ภรรยาเศรษฐี ๑ บุตรเศรษฐี ๑, คนทั้ง ๓ นั้นถูกเผาบน เชิงตะกอนเดียวกัน, แม่เอ๋ย ควันนั่นยังปรากฏอยู่.
วิกลจริตยืนตะลึงอยู่ ร้องไห้รำพันบ่นเพ้อเซซวนไปว่า:-
หยากเยื่อ กอบฝุ่น โปรยลงบนศีรษะ ขว้างด้วยก้อนดิน.
พระเชตวันมหาวิหาร ได้ทอดพระเนตรเห็นนางผู้บำเพ็ญบารมีมาแสนกัลป์ สมบูรณ์ด้วยอภินิหารเดินมาอยู่.
นางปฏาจารานั้น เห็นพระเถรีผู้ทรงวินัยรูปหนึ่ง อันพระปทุมุตตรศาสดา ทรงทั้งไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะ ดังท้าวสักกะจับที่แขน ตั้งไว้ในสวน นันทวัน จึงทำคุณความดีแล้ว ตั้งความปรารถนาไว้ว่า " แม้หม่อมฉัน พึงได้ตำแหน่งเลิศกว่าพระเถรีผู้ทรงวินัยทั้งหลายในสำนักพระพุทธเจ้าเช่น กับด้วยพระองค์," พระปทุมุตตรพุทธเจ้าทรงเล็งอนาคตังสญาณไป ก็ ทรงทราบว่าความปรารถนาจะสำเร็จจึงทรงพยากรณ์ว่า "ในอนาคตกาล หญิงผู้นี้จักเป็นผู้เลิศกว่าพระเถรีผู้ทรงวินัยทั้งหลาย มีนามว่าปฏาจารา ในศาสนาของพระโคดมพุทธเจ้า."
ผู้สมบูรณ์ด้วยอภินิหาร กำลังเดินมาแต่ที่ไกลเทียว ทรงดำริว่า " เว้น เราเสีย ผู้อื่นชื่อว่าสามารถจะเป็นที่พึ่งของหญิงผู้นี้ได้ ไม่มี" จึงได้ ทรงทำนางโดยประการที่นางจะบ่ายหน้าสู่วิหารเดินมา.
มาที่นี้เลย."
นางมาใกล้ จึงตรัสว่า "จงกลับได้สติเถิด น้องหญิง." นางกลับได้ สติด้วยพุทธานุภาพไม่ขณะนั้นเอง. ในเวลานั้น นางกำหนดความที่ผ้านุ่ง หลุดได้แล้ว ให้เกิดหิริโอตตัปปะขึ้น จึงนั่งกระโหย่ง.
เข้าไปเฝ้าพระศาสดา ถวายบังคมด้วยเบญจางคประดิษฐ์ แทบพระบาท ทั้งสองซึ่งมีพรรณะดังทองคำแล้ว ทูลว่า "ขอพระองค์จึงทรงเป็นที่พึ่ง แก่หม่อมฉันเถิด พระเจ้าข้า, เพราะว่าเหยี่ยวเฉี่ยวบุตรคนหนึ่งของ หม่อมฉันไป; คนหนึ่งถูกน้ำพัดไป, สามีตายที่ทางเปลี่ยว, มารดาบิดาและ พี่ชายถูกเรือนทับตาย เขาเผาบนเชิงตะกอนเดียวกัน."
เธอมาสู่สำนักของผู้สามารถจะเป็นที่พึ่งพำนักอาศัยของเธอได้แล้ว; เหมือน อย่างว่า บัดนี้ บุตรคนหนึ่งของเธอถูกเหยี่ยวเฉี่ยวไป, คนหนึ่งถูกน้ำ พัดไป, สามีตายแล้วที่ทางเปลี่ยว, มารดาบิดาและพี่ชายถูกเรือนทับ ฉันใด; น้ำตาที่ไหลออกของเธอผู้ร้องไห้อยู่ในสงสารนี้ ในเวลาที่ปิยชน มีบุตรเป็นต้นตาย ยังมากกว่าน้ำแห่งมหาสมุทรทั้ง ๔ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน" ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า:-
สรีระของนาง ได้ถึงความเบาบางแล้ว.
เตือนอีก แล้วตรัสว่า " ปฏาจารา ขึ้นชื่อว่าปิยชนมีบุตรเป็นต้น ไม่อาจ เพื่อเป็นที่ต้านทาน เป็นที่พึ่ง หรือเป็นที่ป้องกันของผู้ไปสู่ปรโลกได้; เพราะฉะนั้น บุตรเป็นต้นเหล่านั้นถึงมีอยู่ ก็ชื่อว่าย่อมไม่มีทีเดียว, ส่วน บัณฑิตชำระศีลแล้ว ควรชำระทางที่ยังสัตว์ให้ถึงนิพพานของตนเท่านั้น" เมื่อจะทรงแสดงธรรม ได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า :-
แผ่นดินใหญ่แล้ว ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล, ชนแม้เหล่าอื่นเป็นอันมาก บรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.
พระศาสดา. พระศาสดาทรงส่งนางไปยังสำนักของพวกภิกษุณีให้บรรพชา แล้ว. นางได้อุปสมบทแล้วปรากฏชื่อว่า " ปฏาจารา " เพราะนางกลับ ความประพฤติได้.(บาลีว่า เพราะมีความประพฤติเว้นจากผืนผ้า ดังนี้ก็มี. ) วันหนึ่ง นางกำลังเอาหม้อตักน้ำล้างเท้า เทน้ำลง. น้ำนั้นไหลไปหน่อยหนึ่งแล้วก็ขาด. ครั้งที่ ๒ น้ำที่นางเทลง ได้ไหลไป ไกลกว่านั้น. ครั้งที่ ๓ น้ำที่เทลง ได้ไหลไปไกลแม้กว่านั้น ด้วยประการ ฉะนี้. นางถือเอาน้ำนั้นนั่นแลเป็นอารมณ์ กำหนดวัยทั้ง ๓ แล้ว คิดว่า "สัตว์เหล่านี้ ตายเสียในปฐมวัยก็มี เหมือนน้ำที่เราเทลงครั้งแรก, ตาย เสียในมัชฌิมวัยก็มี เหมือนน้ำที่เราเทลงครั้งที่ ๒ ไหลไปไกลกว่านั้น, ตาย เสียในปัจฉิมวัยก็มี เหมือนน้ำที่เราเทลงครั้งที่ ๓ ไหลไปไกลแม้กว่านั้น."
ประทับยืนตรัสอยู่เฉพาะหน้าของนาง ตรัสว่า "ปฏาจารา ข้อนั้น อย่างนั้น, ด้วยว่าความเป็นอยู่วันเดียวก็ดี ขณะเดียวก็ดี ของผู้เห็น ความเกิดขึ้นและความเสื่อมแห่งปัญจขันธ์เหล่านั้น ประเสริฐกว่า ความ เป็นอยู่ ๑๐๐ ปี ของผู้ไม่เห็นความเกิดขึ้นและความเสื่อมแห่งปัญจขันธ์" ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม จึงตรัสพระคาถานี้ว่า:-
ไม่เห็นความเกิดขึ้นและความเสื่อมอยู่ ด้วยลักษณะ ๒๕ แห่งปัญจขันธ์. บาทพระคาถาว่า ปสฺสโต อุทยพฺพยํ ความว่า ความเป็นอยู่แม้วันเดียว ของผู้เห็น ความเกิดขึ้นและความเสื่อมแห่งปัญจขันธ์เหล่านั้น ประเสริฐ กว่าความเป็นอยู่ของบุคคลนอกนี้.
ภิทาทั้งหลาย ดังนี้แล.
ถ่ายที่: ฝาผนังวัดพุทธศรีลังกา เมืองสาวัตถี ประเทศอินเดีย |
||||||
Ngày | |||||||
Nguồn gốc | Tác phẩm được tạo bởi người tải lên | ||||||
Tác giả |
ผู้สร้างสรรค์ผลงาน/ส่งข้อมูลเก็บในคลังข้อมูลเสรีวิกิมีเดียคอมมอนส์ - เทวประภาส มากคล้าย |
||||||
Giấy phép (Dùng lại tập tin) |
English: This work was created by Tevaprapas. Please notify me if you use my work outside Wikimedia.
Français : Cette oeuvre a été crée par Tevaprapas. Veuillez me notifier si elle est utilisée à l'extérieur de Wikimedia.
Svenska: Detta verk skapades av Tevaprapas. Var vänlig kontakta mig om du använder detta verk utanför Wikimedia.
ไทย: งานนี้สร้างสรรค์โดย Tevaprapas ถ้าหากท่านประสงค์นำงานนี้ไปใช้นอกวิกิมีเดีย สามารถนำไปใช้ได้ภายใต้สัญญาอนุญาตที่กำหนดด้านบน หากผู้ใดนำผลงานนี้ไปใช้ กรุณาแจ้งเจ้าของผลงานเพื่อให้รับทราบด้วย
Македонски: Творец на ова дело е корисникот Tevaprapas. Известете го ако сакате да ги користите неговите дела вон Викимедија.
|
||||||
Re-use InfoField | If you use this image outside of the Wikimedia projects, I'd be happy to hear from you. If you want a license with the conditions of your choice, please email me to negotiate terms. |
Lịch sử tập tin
Nhấn vào ngày/giờ để xem nội dung tập tin tại thời điểm đó.
Ngày/giờ | Hình xem trước | Kích cỡ | Thành viên | Miêu tả | |
---|---|---|---|---|---|
hiện tại | 18:40, ngày 14 tháng 7 năm 2009 | 1.279×847 (1,04 MB) | Tevaprapas | == Summary == {{User:Tevaprapas/Information |Description=|Description = {{th|ภาพวาดเหตุการณ์ในพระธรรมบท เรื่องนางปฏาจารา มีเนื้อหามาในพระ� |
Trang sử dụng tập tin
Sử dụng tập tin toàn cục
Những wiki sau đang sử dụng tập tin này:
- Trang sử dụng tại en.wiki.x.io
- Trang sử dụng tại pl.wikiquote.org
Đặc tính hình
Tập tin này chứa thông tin bổ sung, có thể được thêm từ máy ảnh kỹ thuật số hoặc máy quét được sử dụng để tạo hoặc số hóa tập tin.
Nếu tập tin đã được sửa đổi so với trạng thái ban đầu, một số chi tiết có thể không phản ánh đầy đủ tập tin đã sửa đổi.
Hãng máy ảnh | SONY |
---|---|
Dòng máy ảnh | DSC-S90 |
Thời gian mở ống kính | 1/50 giây (0,02) |
Số F | f/5,2 |
Ngày giờ sinh dữ liệu | 11:52, ngày 14 tháng 12 năm 2007 |
Độ dài tiêu cự thấu kính | 18 mm |
Phân giải theo bề ngang | 72 điểm/inch |
Phân giải theo chiều cao | 72 điểm/inch |
Phần mềm sử dụng | PhotoScape |
Ngày giờ sửa tập tin | 01:30, ngày 15 tháng 7 năm 2009 |
Định vị Y và C | Căn giữa |
Chế độ phơi sáng | Chương trình chuẩn |
Điểm tốc độ ISO | 320 |
Phiên bản Exif | 2.2 |
Ngày giờ số hóa | 11:52, ngày 14 tháng 12 năm 2007 |
Độ nén (bit/điểm) | 8 |
Độ lệch phơi sáng | 0 |
Khẩu độ cực đại qua đất | 3 APEX (f/2,83) |
Chế độ đo | Lấy mẫu |
Nguồn sáng | Không biết |
Đèn chớp | Có chớp đèn flash, không phát hiện ra ánh sáng trả về nhấp nháy, chớp flash cưỡng ép, chế độ giảm mắt đỏ |
Ngày giờ nhỏ hơn giây | 687 |
Không gian màu | sRGB |
Sửa hình thủ công | Thường |
Chế độ phơi sáng | Phơi sáng tự động |
Cân bằng trắng | Cân bằng trắng tự động |
Kiểu chụp cảnh | Chuẩn |
Độ tương phản | Thường |
Độ bão hòa | Thường |
Độ sắc nét | Thường |